Love to Read

LOVE TO READ อ่านมากรู้มาก อ่านน้อยรู้น้อย ไม่อ่านไม่รู้



วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หลักสูตรพัฒนาสมอง ป.1อ่านออกเขียนได้


หลักสูตรพัฒนาสมอง ป.1อ่านออกเขียนได้
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 7 ก.ค. 2558 05:01

 “เด็กเก่ง...เด็กดี...มีคุณธรรม” คือผลลัพธ์ที่ต้องการของการปฏิรูปการศึกษาไทยติดอาวุธให้ครูเก่ง...สอนเด็กให้เก่งได้แล้ว...เด็กต้องมีคุณธรรม จริยธรรมเป็นคนดีของสังคม

ปลายเดือนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีสัญจรภาคเหนือ พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในสังกัด สพฐ. โรงเรียนวัดสันกลางเหนือ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดูความคืบหน้าการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางพัฒนาการสมอง

ที่เรียกกันว่า... “Brain Based Learning” หรือ “BBL”… เป้าหมายพลิกโฉมเด็ก ป.1 ให้อ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี

แนวทางการพัฒนาจะใช้เครื่องมือ สื่อต่างๆ ในการสร้างการรับรู้...ความเข้าใจ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนรู้ โดยมีการดำเนินงานตามแผนงานกุญแจ 5 ดอก ประกอบด้วย

กุญแจดอกที่ 1...สนามเด็กเล่น

กุญแจดอกที่ 2...ห้องเรียนเปลี่ยนสมอง ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมทั้งจากคณะครู ผู้ปกครองนักเรียน กรรมการสถานศึกษา ร่วมกันพลิกโฉมโรงเรียนใหม่ ทำสนามเด็กเล่น...ปรับปรุงห้องเรียน เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง กุญแจดอกที่ 3...พลิกกระบวนการเรียนรู้แบบ BBL เป็นเรื่องของกระบวนการจัดการเรียนรู้ทางโรงเรียนที่ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอนโดยใช้กระบวนการ 5 ขั้นตอน...

เพื่อให้นักเรียน...คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น

กุญแจดอกที่ 4...หนังสือเรียนและใบงาน BBL และ กุญแจดอกที่ 5...สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ BBL โรงเรียนวัดสันกลางเหนือ ได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่อง แม้ว่าแนวทางนี้จะเพิ่งเริ่มนำมาใช้ได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น แต่ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ปกครอง ครู นักเรียนที่มีความตั้งใจเดียวกัน เข้ามาช่วยกันพัฒนาโรงเรียน ตามการจัดการเรียนการสอนศตวรรษที่ 21

อาจารย์อดิพงษ์ แป้นทอง อาจารย์ประจำระดับชั้น ป.1 บอกว่า เราจะใช้สื่อและเครื่องมือต่างๆในการสร้างการรับรู้ของเด็ก เด็กจะรู้สึกสนุก ตื่นเต้นที่มีเครื่องมือใหม่ๆมาประกอบการสอน ทำให้เด็กไม่เบื่อ กระตุ้นการเรียนรู้ สนใจการเรียนมากขึ้น

“น่าดีใจว่า...ผลตอบรับดีมาก ผู้ปกครองบอกว่าลูกของตัวเองมีความสนใจในการเรียนมากขึ้น”

ในมุมดีก็มีมุมขาด อาจารย์อดิพงษ์ บอกว่า เรายังขาดหนังสือเรียนที่ใช้ประกอบการสอนแบบ BBL...ที่มีอยู่ตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ครูต้องใช้วิธีการถ่ายเอกสาร เคยสอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้คำตอบว่า งบประมาณในการจัดซื้อหนังสือของปีนี้หมดแล้วต้องรอปีหน้า

สำหรับแผนงานในอนาคตที่จะทำเพิ่มเติม คงจะมีการขยายพื้นที่การปรับปรุงให้ครบทุกห้อง ทุกชั้นเรียน...ทุกพื้นที่ของโรงเรียน รวมทั้งใช้สื่อการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือที่เรียกว่า DLTV เพิ่มมากขึ้น

ถึงตรงนี้คงต้องย้ำถึงหัวใจสำคัญในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิผลสูงสุด?

มุมมองส่วนตัวคิดว่า...สื่อที่ใช้ในการสอนและเทคนิคการสอนของครูมีส่วนสำคัญมาก การทำให้เด็กมีส่วนร่วม จะทำให้เด็กสนใจการเรียน

และถ้าเด็กสนใจการเรียน พัฒนาการโดยรวมก็จะดีขึ้น

หากจะเทียบกับปัจจุบัน...การเรียนการสอนในอนาคตควร

เป็นอย่างไร ควรปรับเปลี่ยนแก้ไขจุดไหนบ้าง...คิดว่าควรมีการ

ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและพัฒนาให้ต่อเนื่อง เด็กในวัยนี้ (ป.1)

จะมีความตื่นเต้นและสนใจสื่อใหม่ๆ เช่น ทีวีโปรเจกเตอร์ หรือ แท็บเล็ต

“วันนี้...ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว กระทรวงศึกษาฯ ได้รับทราบถึงปัญหาและพยายามแก้ไขอยู่ตลอด หลักการ BBL และ DLTV ก็เป็นสิ่งที่กระทรวงศึกษาฯ ได้เริ่มทำให้เด็กๆที่ด้อยโอกาส จะสามารถมีความรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันในทุกภูมิภาค”

สุ้มเสียงนักเรียนชั้น ป.1 เด็กชายภาณุวัฒน์ นายไข่ และ เด็กชายยอดรัตน์ ยาใจ ที่มีต่อครูผู้สอน ทั้งคู่ตอบประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า... “รู้สึกชอบครับ ครูสอนสนุก”

ความสนุกในการเรียนการสอนทำให้นักเรียนทั้งชั้นอยากเรียนหนังสือ...พ่อแม่ก็ช่วยเสริมบอกว่าต้องตั้งใจเรียน เรียนให้เก่งๆ อย่าดื้อกับครู วันนี้...คุณครูสอนวาดรูป สอนภาษาไทย สอนสระวรรณยุกต์ครับ

ก่อนแยกย้าย เด็กชายยอดรัตน์ ทิ้งท้ายว่า ผมชอบทีวีจอใหญ่ครับ เพราะจอใหญ่...ดูสนุก ดูแล้วรู้สึกตื่นเต้น...อยากเรียนหนังสือ แต่ก็มีบางคนเหมือนกันนะครับที่ไม่ชอบ เพราะเขาไม่ตั้งใจเรียน

พลเอกสุรเชษฐ์ เสริมว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาเห็นสิ่งที่โรงเรียนฯดำเนินงานตามนโยบายและแผนงานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ที่นี่...ถึงจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก แต่เดิมเคยมีปัญหาขาดแคลนครู หรือบางวิชามีครูไม่ครบชั้น เราจึงนำโครงการ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมที่รับสัญญาณจากโรงเรียนวังไกลกังวลมาใช้ (DLTV)...ก็มีผลสัมฤทธิ์ที่น่าพอใจ

“การมาเยี่ยมโรงเรียนในวันนี้ จะเห็นได้ว่าทางโรงเรียนมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีความสำเร็จเกิดขึ้นตามลำดับ สามารถขยายผลต่อไปในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกล... แม้จะดำเนินงานมาเพียงหนึ่งเดือน แต่คิดว่ามาถูกทางแล้ว”

เรื่องที่น่าชื่นชมก็คือการเสียสละของผู้ปกครอง ที่เข้ามาช่วยกัน ร่วมไม้ร่วมมือสร้างอุปกรณ์การเรียน รวมทั้งเสียสละบริจาคเงินทอง สิ่งของต่างๆ ร่วมมือกับทางคณะครูเป็นอย่างดี เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพ ผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม...ถ้ามีส่วนใดที่ทางกระทรวงฯสามารถช่วยเร่งรัดให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น ก็พร้อมจะรีบเร่งรัดให้เกิดผลโดยเร็ว

“กุญแจในการปฏิรูปการศึกษา” หรือ “The Key of Education Reform” นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์จิตวิทยาการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ ตอกย้ำไปในหลายเวทีว่าปัญหาการศึกษายิ่งใหญ่ที่สุด...หลายประเทศทั่วโลกเจอกันมาแล้ว บิล เกตส์ ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาพบว่าสิ่งที่สำคัญคือ “คุณภาพของครู” และ “คุณภาพการสอน”

ประเทศไทย กับเส้นทางการปฏิรูปการศึกษา...“การปฏิรูปการศึกษา” ต้องมีแก่น มีหลัก กระจายอำนาจ พร้อมๆกับดึงทุกภาคส่วนมาร่วม...ที่สำคัญคือความต่อเนื่อง ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษา 3 ข้อ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแส ได้แก่

“...ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู”

“...ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า”

“...ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”.

*****************************************************************
https://www.thairath.co.th/content/509702