Love to Read

LOVE TO READ อ่านมากรู้มาก อ่านน้อยรู้น้อย ไม่อ่านไม่รู้



วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ




หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ


วิสัยทัศน์
            คิดสร้างสรรค์  ผสานจินตนาการ ชื่นชมความงาม สุขล้ำสุนทรียภาพ รักษ์ถิ่นฐาน อนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล
พันธกิจ
            ๑. จัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานและสาระที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น
            ๒. พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการให้ผู้เรียนได้แสดงออกทางผลงานศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์อย่างชื่นชมเชื่อมั่นและมีความสุข
           ๓.ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีค่านิยมรักงานศิลปะในท้องถิ่น ร่วมอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล
เป้าหมาย
                พัฒนาผู้เรียนให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์   มีจินตนาการทางศิลปะ  ชื่นชมความงาม  มีสุนทรียภาพ อนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น 
ทำไมต้องเรียนศิลปะ
                กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์   มีจินตนาการทางศิลปะ  ชื่นชมความงาม  มีสุนทรียภาพ  ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์  กิจกรรมทางศิลปะช่วยพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย  จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน  การนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อม  ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง อันเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพได้
เรียนรู้อะไรในศิลปะ
            กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนงต่าง ๆ ประกอบด้วยสาระสำคัญ คือ
(1)ทัศนศิลป์    มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนำเสนอผลงาน ทางทัศนศิลป์จากจินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถใช้เทคนิค วิธีการ ของศิลปินในการสร้างงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  วิเคราะห์  วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์  เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์  ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม  เห็นคุณค่างานศิลปะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล ชื่นชม ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 
(2)ดนตรี           มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ทางดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าดนตรี  ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ร้องเพลง และเล่นดนตรี ในรูปแบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสียงดนตรี  แสดงความรู้สึกที่มีต่อดนตรีในเชิงสุนทรียะ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีวัฒนธรรม  และเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ 
(3)นาฏศิลป์     มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์  แสดงออกทางนาฏศิลป์  อย่างสร้างสรรค์  ใช้ศัพท์เบื้องต้นทางนาฏศิลป์ วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ประยุกต์ใช้นาฏศิลป์    ในชีวิตประจำวัน  เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์กับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เห็นคุณค่า   ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล


สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๑  ทัศนศิลป์
มาตรฐาน ศ ๑.๑     สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์
วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
มาตรฐาน ศ ๑.๒   เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล
สาระที่ ๒  ดนตรี
มาตรฐาน ศ ๒.๑    เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี
ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้     ในชีวิตประจำวัน
มาตรฐาน ศ ๒.๒   เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรี
ที่ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล
สาระที่ ๓  นาฏศิลป์
มาตรฐาน ศ ๓.๑    เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
มาตรฐาน ศ ๓.๒   เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล


คุณภาพผู้เรียน
จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
 1.รู้และเข้าใจเกี่ยวกับรูปร่าง รูปทรง และจำแนกทัศนธาตุของสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพื้นฐานการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างงานวาดภาพระบายสี โดยใช้เส้น รูปร่าง รูปทรง สี และพื้นผิว ภาพปะติด และงานปั้น งานโครงสร้างเคลื่อนไหวอย่างง่าย ๆ ถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกจากเรื่องราว เหตุการณ์ ชีวิตจริง สร้างงานทัศนศิลป์ตามที่ตนชื่นชอบ สามารถแสดงเหตุผลและวิธีการในการปรับปรุงงานของตนเอง
2.รู้และเข้าใจความสำคัญของงานทัศนศิลป์ในชีวิตประจำวัน ที่มาของงานทัศนศิลป์ในท้องถิ่น ตลอดจนการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการสร้างงานทัศนศิลป์ในท้องถิ่น
3.รู้และเข้าใจแหล่งกำเนิดเสียง คุณสมบัติของเสียง บทบาทหน้าที่ ความหมาย ความสำคัญของบทเพลงใกล้ตัวที่ได้ยิน สามารถท่องบทกลอน ร้องเพลง เคาะจังหวะ เคลื่อนไหวร่างกายให้สอดคล้องกับบทเพลง อ่าน เขียน และใช้สัญลักษณ์แทนเสียงและเคาะจังหวะ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับดนตรี เสียงขับร้องของตนเอง มีส่วนร่วมกับกิจกรรมดนตรีในชีวิตประจำวัน
4.รู้และเข้าใจเอกลักษณ์ของดนตรีในท้องถิ่น มีความชื่นชอบ เห็นความสำคัญ และประโยชน์ของดนตรีต่อการดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น
5.สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ สามารถแสดงท่าทางประกอบจังหวะเพลง ตามรูปแบบนาฏศิลป์  มีมารยาทในการชมการแสดง  รู้หน้าที่ของผู้แสดงและผู้ชม รู้ประโยชน์ ของการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจำวัน เข้าร่วมกิจกรรมการแสดงที่เหมาะสมกับวัย
6.รู้และเข้าใจการละเล่นของเด็กไทยและนาฏศิลป์ท้องถิ่น ชื่นชอบและภาคภูมิใจ  ในการละเล่นพื้นบ้าน สามารถเชื่อมโยงสิ่งที่พบเห็นในการละเล่นพื้นบ้านกับการดำรงชีวิต   ของคนไทย บอกลักษณะเด่นและเอกลักษณ์ของนาฏศิลป์ไทยตลอดจนความสำคัญของการแสดงนาฏศิลป์ไทยได้


จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
1.รู้และเข้าใจการใช้ทัศนธาตุ รูปร่าง รูปทรง พื้นผิว สี แสงเงา มีทักษะพื้นฐานในการใช้วัสดุอุปกรณ์ ถ่ายทอดความคิด อารมณ์ ความรู้สึก สามารถใช้หลักการจัดขนาด สัดส่วน    ความสมดุล น้ำหนัก แสงเงา ตลอดจนการใช้สีคู่ตรงข้ามที่เหมาะสมในการสร้างงานทัศนศิลป์  ๒ มิติ ๓ มิติ เช่น งานสื่อผสม งานวาดภาพระบายสี งานปั้น งานพิมพ์ภาพ รวมทั้งสามารถ    สร้างแผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบเพื่อถ่ายทอดความคิดจินตนาการเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ  และสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ที่สร้างสรรค์ ด้วยวัสดุอุปกรณ์และวิธีการที่แตกต่างกัน เข้าใจปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ หลักการลด  และเพิ่มในงานปั้น การสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ของตน รู้วิธีการปรับปรุงงานให้ดีขึ้น ตลอดจน รู้และเข้าใจคุณค่าของงานทัศนศิลป์ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม
2.รู้และเข้าใจบทบาทของงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนชีวิตและสังคม อิทธิพลของความเชื่อ   ความศรัทธา ในศาสนา และวัฒนธรรมที่มีผลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ในท้องถิ่น
-รู้และเข้าใจเกี่ยวกับเสียงดนตรี เสียงร้อง เครื่องดนตรี และบทบาทหน้าที่   รู้ถึงการเคลื่อนที่ขึ้น ลง ของทำนองเพลง องค์ประกอบของดนตรี ศัพท์สังคีตในบทเพลง ประโยค   และอารมณ์ของบทเพลงที่ฟัง ร้องและบรรเลงเครื่องดนตรี ด้นสดอย่างง่าย ใช้และเก็บรักษา เครื่องดนตรีอย่างถูกวิธี อ่าน เขียนโน้ตไทยและสากลในรูปแบบต่าง ๆ รู้ลักษณะของผู้ที่จะเล่นดนตรีได้ดี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึกของบทเพลงที่ฟัง สามารถใช้ดนตรีประกอบกิจกรรมทางนาฏศิลป์และ การเล่าเรื่อง
3.รู้และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมไทย  และวัฒนธรรมต่าง ๆ เรื่องราวดนตรีในประวัติศาสตร์ อิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรี รู้คุณค่าดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน เห็นความสำคัญในการอนุรักษ์
4.รู้และเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ สามารถแสดงภาษาท่า นาฏยศัพท์พื้นฐาน สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวและการแสดงนาฏศิลป์ และการละครง่าย ๆ ถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ และสามารถออกแบบเครื่องแต่งกายหรืออุปกรณ์ประกอบการแสดงง่าย ๆ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับสิ่งที่ประสบในชีวิตประจำวัน แสดงความคิดเห็นในการชมการแสดง และบรรยายความรู้สึกของตนเองที่มีต่องานนาฏศิลป์
5.รู้และเข้าใจความสัมพันธ์และประโยชน์ของนาฏศิลป์และการละคร สามารถเปรียบเทียบการแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทยในแต่ละท้องถิ่น และสิ่งที่การแสดงสะท้อนวัฒนธรรมประเพณี  เห็นคุณค่าการรักษาและสืบทอดการแสดงนาฏศิลป์ไทย

จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
1. รู้และเข้าใจเรื่องทัศนธาตุและหลักการออกแบบและเทคนิคที่หลากหลายในการ  สร้างงานทัศนศิลป์ ๒ มิติ และ ๓ มิติ เพื่อสื่อความหมายและเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ วิเคราะห์รูปแบบเนื้อหาและประเมินคุณค่างานทัศนศิลป์ของตนเองและผู้อื่น สามารถเลือกงานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดขึ้นอย่างเหมาะสม สามารถออกแบบรูปภาพ สัญลักษณ์ กราฟิก         ในการนำเสนอข้อมูลและมีความรู้ ทักษะที่จำเป็นด้านอาชีพที่เกี่ยวข้องกันกับงานทัศนศิลป์
2. รู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของงานทัศนศิลป์ของชาติและท้องถิ่น  แต่ละยุคสมัย เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ที่สะท้อนวัฒนธรรมและสามารถเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์   ที่มาจากยุคสมัยและวัฒนธรรมต่าง ๆ
3.รู้และเข้าใจถึงความแตกต่างทางด้านเสียง องค์ประกอบ อารมณ์ ความรู้สึก  ของบทเพลงจากวัฒนธรรมต่าง ๆ มีทักษะในการร้อง บรรเลงเครื่องดนตรี ทั้งเดี่ยวและเป็นวงโดยเน้นเทคนิคการร้องบรรเลงอย่างมีคุณภาพ มีทักษะในการสร้างสรรค์บทเพลงอย่างง่าย อ่านเขียนโน้ต ในบันไดเสียงที่มีเครื่องหมาย แปลงเสียงเบื้องต้นได้ รู้และเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อรูปแบบของผลงานทางดนตรี องค์ประกอบของผลงานด้านดนตรีกับศิลปะแขนงอื่น แสดงความคิดเห็นและบรรยายอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อบทเพลง สามารถนำเสนอบทเพลงที่ชื่นชอบได้อย่างมีเหตุผล มีทักษะในการประเมินคุณภาพของบทเพลงและการแสดงดนตรี รู้ถึงอาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรีในธุรกิจบันเทิง เข้าใจถึงอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อบุคคลและสังคม
4.รู้และเข้าใจที่มา ความสัมพันธ์ อิทธิพลและบทบาทของดนตรีแต่ละวัฒนธรรมในยุคสมัยต่าง ๆ วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้งานดนตรีได้รับการยอมรับ
5.รู้และเข้าใจการใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครในการแปลความและสื่อสาร ผ่านการแสดง รวมทั้งพัฒนารูปแบบการแสดง สามารถใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ในการพิจารณาคุณภาพ   การแสดง วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ โดยใช้ความรู้เรื่ององค์ประกอบทางนาฏศิลป์   ร่วมจัดการแสดง  นำแนวคิดของการแสดงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
6. รู้และเข้าใจประเภทละครไทยในแต่ละยุคสมัย ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง  ของนาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทย และละครพื้นบ้าน เปรียบเทียบลักษณะเฉพาะ   ของการแสดงนาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมทั้งสามารถออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์ เครื่องแต่งกายในการแสดงนาฏศิลป์และละคร มีความเข้าใจ ความสำคัญ บทบาทของนาฏศิลป์ และละครในชีวิตประจำวัน


จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
1.รู้และเข้าใจเกี่ยวกับทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการสื่อความหมาย สามารถใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป์ อธิบายจุดประสงค์และเนื้อหาของงานทัศนศิลป์ มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์และกระบวนการที่สูงขึ้นในการสร้างงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์เนื้อหาและแนวคิด เทคนิควิธีการ การแสดงออกของศิลปินทั้งไทยและสากล ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการออกแบบสร้างสรรค์งานที่เหมาะสมกับโอกาส สถานที่ รวมทั้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมด้วยภาพล้อเลียนหรือการ์ตูน ตลอดจนประเมินและวิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ด้วยหลักทฤษฎีวิจารณ์ศิลปะ
2.วิเคราะห์เปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตก  เข้าใจอิทธิพลของมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาระหว่างประเทศที่มีผลต่อการสร้างสรรค์  งานทัศนศิลป์ในสังคม
3.รู้และเข้าใจรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท และจำแนกรูปแบบ ของวงดนตรีทั้งไทยและสากล เข้าใจอิทธิพลของวัฒนธรรมต่อการสร้างสรรค์ดนตรี เปรียบเทียบอารมณ์และความรู้สึกที่ได้รับจากดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน อ่าน เขียน โน้ตดนตรีไทยและสากล ในอัตราจังหวะต่าง ๆ มีทักษะในการร้องเพลงหรือเล่นดนตรีเดี่ยวและรวมวงโดยเน้นเทคนิค   การแสดงออกและคุณภาพของการแสดง สร้างเกณฑ์สำหรับประเมินคุณภาพการประพันธ์   การเล่นดนตรีของตนเองและผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม สามารถนำดนตรีไประยุกต์ใช้ในงานอื่น ๆ
4.วิเคราะห์ เปรียบเทียบรูปแบบ ลักษณะเด่นของดนตรีไทยและสากลในวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้าใจบทบาทของดนตรีที่สะท้อนแนวความคิดและค่านิยมของคนในสังคม สถานะทางสังคม   ของนักดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ สร้างแนวทางและมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและอนุรักษ์ดนตรี
5.มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ มีความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และเป็นหมู่ สร้างสรรค์ละครสั้นในรูปแบบที่ชื่นชอบ สามารถวิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และละครที่ต้องการสื่อความหมายในการแสดง  อิทธิพลของเครื่องแต่งกาย แสง สี เสียง  ฉาก อุปกรณ์ และสถานที่ที่มีผลต่อการแสดง วิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และละคร  พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการประเมินการแสดง และสามารถวิเคราะห์ท่าทางการเคลื่อนไหวของผู้คนในชีวิตประจำวัน  และนำมาประยุกต์ใช้ในการแสดง
6.เข้าใจวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการแสดงละครไทย และบทบาทของบุคคลสำคัญ ในวงการนาฏศิลป์และการละครของประเทศไทยในยุคสมัยต่าง ๆ สามารถเปรียบเทียบ   การนำการแสดงไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ และเสนอแนวคิดในการอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทย


ตัวชี้วัด
    ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติได้  รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น  ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ในการกำหนดเนื้อหา  จัดทำหน่วยการเรียนรู้  จัดการเรียนการสอน  และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน
1.     ตัวชี้วัดชั้นปี  เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ
        (ประถมศึกษาปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 )
2.     ตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
        (มัธยมศึกษาปีที่4  - 6 )
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. รักชาติ  ศาสนา  กษัตริย์
2. ซื่อสัตย์สุจริต
3. มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมั่นในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ


วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

ขอตัวอย่างกิจกรรมส่งเสริมการอ่านค่ะ..


ขอตัวอย่างกิจกรรมส่งเสริมการอ่านค่ะ..
เมื่อเด็กไม่รักการอ่าน..โลกแห่งการเรียนรู้ก็จำกัดและคับแคบ

                          หนังสือนั้นหรือคือเพื่อนสนิท             ให้ความคิดความรู้ดูมากหลาย
                   เป็นเพื่อนกินเพื่อนอนพักผ่อนกาย            ทั้งยังเป็นอาวุธร้ายไว้ป้องกันตน
                   เป็นเพื่อนเที่ยวพาเราไปได้หลายสถาน     ดีกว่ายานรถตีกตีกทุกแห่งหน
                  ดีกว่าทรัยพ์สมบัติใดในสากล                      เชิญมายลหนังสือซื้อเอาเลย
                                                                                       
                                                                             สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

สวัสดีค่ะ...กัลยาณมิตรที่รักทุกท่าน   
               นานมากเชียวนะคะที่เจ้าของบ้านหายตัวไป  แต่ไม่ได้เข้าไปซุกตัวในกลีบเมฆก้อนใดๆเลยค่ะ..   งานล้นมือเหมือนเพื่อนๆค่ะ  อีกสักพักหากเรื่องราวเรียบร้อยคงได้มาพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆที่รักทุกท่าน ดังเดิม  ช่วงนี้กำลังรณรงค์ช่วยกันเรื่องการแก้ปัญหานักเรียนอ่าน-เขียนไม่ได้  ไม่ค่อยรักการอ่าน เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาค่ะ ..ธรรมดาเพราะฟังจนชินหู... ไม่ธรรมดาเพราะแก้ไขไม่จบสักทีค่ะ..ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างจริงจัง
              บันทึกนี้จึงขอนำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านแก่เพื่อนครูที่ร้องขอมาค่ะ  เป็นตัวอย่างของผู้เขียนที่ได้ใช้ในโรงเรียน   ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางแก่คุณครูเพื่อนำไปพัฒนาต่อได้ กิจกรรมที่เสนอเป็นภาพกว้างๆ คุณครูที่สนใจสามารถกำหนดรายละเอียดของกิจกรรม...แตกหน่อ..ต่อยอดได้อีกค่ะ ผู้เขียนก็ใช้วิธีนี้แหละค่ะ..ต่อยอด..จากพี่กัลยาณมิตรนิเทศ..อ.เพลินพิศ กราบขอบคุณสวยๆ ค่ะ ผู้เขียนขอขอบคุณ..ครูพี่เหมียว...(คุณครูสายตา  ปาลี) เป็นอย่างยิ่งมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ....สำหรับ Concept ของแต่ละกิจกรรมด้วยภาษาที่งดงามและง่ายต่อการจดจำ    และครูพี่เหมียวก็เก่งนักเชียวในการสร้างสรรค์แผ่นอ่าน รูปลักษณ์แปลกตา  น่าสนใจ  น่าจับต้องฝากส่งเสียงผ่านบันทึกนี้ไปยังครูพี่เหมียวด้วยในการนำกิจกรรมการสร้างแผ่นอ่านมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ และคุณครูที่สนใจ..นะคะ..ขอบคุณสวยๆล่วงหน้าค่ะ.. (ฝากภาพตะกร้าความรู้สวยๆ มาด้วยนะคะ...เครือข่ายกัลยาณมิตรที่แสนดีและน่ารัก..)              
                                                    กิจกรรมที่ ๑   ตะกร้าหาความรู้
                      ตะกร้าสวยด้วยความรู้ครูมอบให้ 
แด่เด็กไทยได้ค้นคว้าวิชาขยัน
               เกร็ดความรู้สู่แผ่นอ่านสารสำคัญ
อ่านมากนั้นครูชื่นใจได้วิชา

                                                      กิจกรรมที่    เรียนรู้สู่สารานุกรมไทย
                          หนังสือดีมีคุณค่าแสนน่าอ่าน
  ขอกล่าวขานรวมเล่มเต็มคุณค่า 
                 พระราชประสงค์มอบให้ด้วยเมตตา
   สิ่งล้ำค่าเยาวชนควรสนใจ

                                                    กิจกรรมที่    ตอบถามได้ฉับไว
                      การอ่านแล้วตั้งคำถามตามด้วยตอบ
เด็กเด็กชอบตอบถามความสงสัย
                จากหนังสืออ่านเสร็จสรรพตอบฉับไว
สิ่งที่ได้คือรางวัลนั้นงามงด

                                                     กิจกรรมที่     ออกเสียงให้ได้ชัดเจน
                       ภาษาไทยใช้ถูกต้องและคล่องแคล่ว
ออกเสียงแล้วชัดเจนเกณฑ์กำหนด
                    คำควบกล้ำ    ล อย่าละลด
ว่าตามกฎกติกาภาษาไทย

                                                      กิจกรรมที่    พี่สอนน้องให้อ่าน
                         กิจกรรมพี่สอนน้องท่องหนังสือ      
นั่นแหละคือความประสงค์จำนงหมาย
                  พี่ฉลาดอาจสอนน้องได้มากมาย
น้องทั้งหลายรู้ความตามพี่ทัน

                                                     กิจกรรมที่     แนะนำสารหนังสือเป็น
                                      หนังสือคือสิ่งดีมีคุณค่า 
หนังสือน่าหยิบอ่านน้องต้องเลือกสรร
                           นวนิยาย วรรณกรรม  สารพัน
ทุกเล่มนั้นน่าศึกษาวิชาชาญ

                                                     กิจกรรมที่     อ่านฟังตั้งใจเน้น
                                การอ่านให้ได้ฟังตั้งใจเน้น
ต้องอ่านเป็นเรื่องราวที่กล่าวขาน
                       อ่านฟังแล้วเข้าใจในกลอนกานท์
อ่านข่าวสารฟังเป็นเน้นใจความ

  กิจกรรมที่    การละเล่นเล่านิทาน
                              นิทานแสนสนุกปลุกดวงจิต
อ่านฟัง คิด เล่านิทาน วานตอบถาม
                       ใคร อะไร ที่ไหน ตอบใจความ
โอนอ่อนตามตัวละครสอนเล่าเรียน

                                                       กิจกรรมที่    สนุกสนานโต้วาที
                                         การจัดโต้วาทีดีนักหนา
ได้นำพา คิด ฟังทั้งอ่านเขียน
           เลือกวิเคราะห์เจาะประเด็นล้วนพากเพียร
ไม่ผิดเพี้ยนเหมือนสภาโต้วาที

                                                      กิจกรรมที่ ๑๐   นำสิ่งดีจัดนิทรรศการ
                         การศึกษาเล่าเรียนอ่านเขียนผ่าน
ด้วยชิ้นงานที่กำหนดปรากฏนี้
                    นำเสนอเชิญยลผลงานดี
ให้เป็นที่แหล่งศึกษาหาขั้นตอน

                                                      กิจกรรมที่ ๑๑   รวมใจค่ายนักอ่าน
                           กิจกรรมหลากหลายค่ายนักอ่าน
จัดเป็นฐานการเรียนรู้แทนครูสอน
                    สนุกสนานอ่านเขียนเรียนสัญจร
เป็นขั้นตอนง่ายยากหลากหลายดี

                                                      กิจกรรมที่ ๑๒    แสนเบิกบานละครหุ่น
                                   ดูละครหุ่นมือคือเด็กน้อย
เฝ้ารอคอยชมชิดติดกับที่
                         สวมบทบาทผู้เล่าก็เข้าที
ฉันท์น้องพี่ร่วมเล่าขานผ่านละคร

                                                      กิจกรรมที่ ๑๓  เพิ่มพูนความรู้สู่สนทนา
                                สนทนาหาความรู้คู่การอ่าน
หาข่าวสารเรื่องราวมากจากหนังสือ
                        แลกเปลี่ยนกันสนทนาว่านั้นคือ
ได้ฝึกปรือ พูดอ่านการสนทนา

                                                 กิจกรรมที่ ๑๔    สุขหรรษาการเล่าเรื่อง
                              การเล่าเรื่องนานาพาสุขสันต์ 
เทคนิคนั้นนำมาใช้ใช่ครูสอน
                   เด็กน้อยต่างค้นคว้ามาเว้าวอน
เล่าทุกตอนน่าสนใจได้ฝึกปรือ

กิจกรรมที่ ๑๕   ฉลาดปราดเปรื่องยอดนักอ่าน
โครงการเด็กไทย ยอดนักอ่าน           เป็นรากฐานสานใจใฝ่ศึกษา
ขยันอ่านขยันบันทึกล้วนนำพา                  ให้ก้าวหน้าเป็นเด็กไทยที่ใฝ่เรียน

                  กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในโรงเรียน  ด้วยการสร้างยอดนักอ่านในโรงเรียนที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบทั้งโรงเรียน   มีการจัดทำโครงการ   และดำเนินงานตามขั้นตอนอย่างสม่ำแสมอและต่อเนื่อง       ประกาศยกย่องเป็น  “ยอดนักอ่าน”  แห่งปีหรือภาคเรียน    มอบรางวัลหรือประกาศเกียรติคุณ  และเผยแพร่ผลงานแก่พ่อแม่  ผู้ปกครอง  ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง    ทั้งนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เด็ก  เป็นการเสริมแรงให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านได้ดีทีเดียวค่ะ...
*****************************************      
จากเว็บไซต์  https://www.gotoknow.org/posts/201773