เสียงจากครูภาษาไทยแม่ฮ่องสอน
ที่บอกกล่าวถึง
ปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทย
******************************************************
สืบเนื่องจากการได้รับเชิญเป็นวิทยากรการอบรมครูภาษาไทย ของศูนย์ภาษาไทย โรงเรียนในฝัน(โรงเรียนดีใกล้บ้าน) ของสพท.แม่ฮ่องสอน เขต ๑ และ ๒ ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนสบเมยพิทยาคม มีคุณครูภาษาไทยเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน ๘๕ คน จาก ๖๐ โรงเรียน ในทุกอำเภอของแม่ฮ่องสอน
นับเป็นโอกาสและโชคดีของชีวิตที่ได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคุณครูที่อยู่บนดอยสูง อยู่ในโรงเรียนไกลกันดาร ที่ต้องประสบปัญหาในการจัดการเรียนการสอนมากมานานาประการ โดยเฉพาะในเรื่องของกลุ่มสาระภาษาไทย ซึ่งเป็นสาระหลักที่เด็กต้องได้เรียน และเรียนได้ ใช้ภาษาสื่อสารเป็นกิจกรรมแรกที่ผู้เขียนได้เชิญชวนคุณครูเล่าประสบการณ์ของตนเองจากการเป็นครูผู้สอนภาษาไทยในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาว่าพบปัญหาอะไรบ้าง เพื่อการหาแนวทางในการแก้ไขและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (ในส่วนที่เราพึงทำได้)
สรุปปัญหาของคุณครู ดังนี้ ผู้เขียนขอนำเสนอทั้งหมดโดยไม่ย่อ หรือตัดทอน หรือ รวมกลุ่มปัญหาเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อที่เพื่อนครูหรือท่านผู้อ่านจะได้รับทราบข้อมูลว่าหลายโรงเรียนประสบปัญหาเดียวกัน
๑.ด้านนักเรียน
(๑)พูดไม่ชัด
(๒)สะกดไม่ถูกต้อง
(๓)ใช้ภาษาถิ่นมากกว่าภาษาไทย
(๔)อ่านไม่ได้เขียนไม่ออก
(๕)ออกเสียงคำควบกล้ำไม่ถูกต้อง
(๖)ใช้คำไม่ตรงความหมาย
(๗)คิดวิเคราะห์ไม่เป็น
(๘)ขาดทักษะการอ่านและการเขียน
(๙)เขียนตามภาษาพูดของตน
(๑๐)จำสระบางตัวไม่ได้
(๑๑)อ่านสะกดคำไม่เป็น อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้
(๑๒)ลายมือไม่สวย
(๑๓)จำมาตราตัวสะกดไม่ได้
(๑๔)มีพื้นฐานทางภาษาไทยไม่แน่น
(๑๕)มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ด้านทักษะการอ่าน-เขียน
(๑๖)คิดวิเคราะห์ไม่เป็น ตีความไม่ได้
(๑๗)ผันวรรณยุกต์ไม่เป็น
(๑๘)ขาดนิสัยรักการอ่าน ไม่แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
(๑๙)สนใจสื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากกว่าการอ่านเพื่อเสริมความรู้
(๒๐)เด็กอ่านไม่ออก
(๒๑)เด็กไม่สนใจเรียน
(๒๒)นักเรียนไม่ชอบอ่านหนังสือ
(๒๓)นักเรียนไม่สนใจเรียน
(๒๔)สะกดคำไม่ได้
(๒๕)เขียนเรียงความไม่ได้ ใช้ภาษาไม่ถูกต้อง
(๒๖)ขาดทักษะในการพูดภาษาไทย
(๒๗)คิดไม่เป็น
(๒๘)อ่านออกเสียง ร ล คำควบกล้ำไม่ถูกต้อง
(๒๙)อ่านสะกดคำไม่ถูกต้อง
(๓๐)อ่านออกเสียงไม่ตรงตามตัวสะกด
(๓๑)ไม่สามารถเรียงประโยคได้ถูกต้อง
(๓๒)ไม่สามารถสรุปใจความของเรื่องได้ แนวคิดของเรื่อง (บทประพันธ์)
(๓๓)ไม่สามารถถอดความและแปลความได้
(๓๔)เรียงลำดับของเรื่องยังไม่ได้
(๓๕)คิดวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านไม่ได้
(๓๖)ผันวรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง
(๓๗)เขียนตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา
(๓๘)เขียนสะกดผิด
(๓๙)พูดไม่ชัด เช่น คำควบกล้ำ ตัวสะกด
(๔๐)เขียนตามคำพูดของตัวเอง
(๔๑)ขาดเรียนบ่อย
(๔๒)ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีจินตนาการ
(๔๓)พูดภาษาถิ่นมากกว่าภาษาไทย
(๔๔)เด็กไม่รักการอ่าน
(๔๕)เด็กมีความหลากหลายในชนเผ่า
(๔๖)เด็กไม่รู้จักวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรอง
(๔๗)นักเรียนรู้จักพยัญชนะและสระ แต่ไม่สามารถประสมคำได้
(๔๘)เขียนสะกดคำตามการออกเสียงของตนเองซึ่งใช้ตัวสะกดผิดเช่นช้าง-ช้าน
(๔๙)นักเรียนผันวรรณยุกต์ไม่ได้
(๕๐)เวลาอ่านออกเสียงจะไม่ออกเสียงตัวสะกดเช่นโรงเรียน-โรงเรีย เขียน- เขีย
(๕๑)เวลาเขียนคำ มักวางตำแหน่งรูปสระหรือวรรณยุกต์ผิด เช่น หูน
(๕๒)คิดวิเคราะห์และตีความไม่เป็น
(๕๓)เขียนเรื่องราวไม่ได้ใจความ
(๕๔)ลืมเรื่องที่เรียนได้ง่าย
(๕๕)ไม่สามารถตีความจากบทความ
(๕๖)สรุปใจความสำคัญไม่ได้
(๕๗)ไม่สามารถผันคำได้
(๕๘)จำแนกคำไม่ได้
(๕๙)สะกดคำไม่ได้
(๖๐)เป็นชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ใช้ภาษาถิ่น อ่านตัวสะกดไม่ได้
(๖๑)มีเด็ก LD ไม่สนใจในการเรียน
(๖๒)เด็กไม่มีความตระหนักในวิชาภาษาไทย
(๖๓)เด็กไม่มีพื้นฐานในการเรียนภาษาไทยทำให้ประสบปัญหาการเรียนที่สูงขึ้น
(๖๔)เด็กไม่ยอมคิด ไม่ยอมทำกิจกรรม
(๖๕)เด็กติดเกม
(๖๖)ขาดเรียนบ่อย
(๖๗)เด็กไม่รักการอ่าน
๒.ด้านครูผู้สอน
(๑)ครูไม่จบเอกภาษาไทย
(๒)ครูสอนไม่ครบชั้น
(๓)ครูสอนหลายสาระการเรียนรู้
(๔)ครูสอนไม่ตรงวิชาเอก
(๕)ครูขาดเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ
(๖)ครูไม่มีความถนัดในการสอนบางเนื้อหาสาระ
(๗)ครูใช้สื่อการเรียนการสอนไม่เพียงพอ
(๘)ครูขาดเทคนิคการสอนภาษาไทย / สอนไม่ตรงตามเอก
(๙)ครูสอน ๑ คน ต่อ๒ ชั้น
(๑๐)ครูบางท่านไม่ได้จบเอกภาษาไทย ขาดความแน่นในเนื้อหา
(๑๑)วิธีการสอน สื่อการสอน ยังไม่มีเทคนิควิธีการที่ไม่หลากหลาย
(๑๒)ครูมีภาระงานมาก ไม่สามารถสอนเสริมหรือติดตามพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กที่สอนได้อย่างเต็มที่
(๑๓)ครูสอนไม่ตรงตามวุฒิ
(๑๔)ครูสอนภาษาไทยมีน้อย
(๑๕)ครูน้อยรับผิดชอบหลายชั้นเรียน
(๑๖)ครูไม่เปิดใจเข้าหาเด็ก
(๑๗)ครูไม่รักการอ่าน
(๑๘)ครูมีความรู้ไม่แน่นในเรื่องหลักภาษา
(๑๙)สอนควบชั้น ทำให้ดูแลนักเรียนไม่ทั่วถึง
(๒๐)ครูสอนไม่ตรงเวลา
(๒๑)ครูไม่ใช้สื่อ
(๒๒)ครูมีภาระงานมาก
(๒๓)สอนไม่ครบชั้น
(๒๔)ขาดสื่อและเทคโนโลยี
(๒๕)ครูย้าย
(๒๖)ครูไม่รักการอ่าน
๓.ด้านผู้บริหารสถานศึกษา
(๑)ผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญของสาระภาษาไทย
(๒)ผู้บริหารไม่สนับสนุน ส่งเสริมให้ครูไปอบรมเพื่อพัฒนาตนเอง
(๓)ไม่จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเพิ่มทักษะภาษาไทยให้ครู
(๓)ไม่สนับสนุนงบประมาณให้กับครูภาษาไทย
(๔)ผู้บริหารไม่สนับสนุนครูในการไปพัฒนาตน
(๕)ผู้บริหารขาดการนิเทศติดตาม
(๖)ผู้บริหารขาดงบประมาณในการสนับสนุนสื่อ / กิจกรรม
(๗)ไม่เห็นความสำคัญของวิชาภาษาไทย
๔.ด้านผู้ปกครอง
(๑)ผู้ปกครองไม่ให้ความสนใจ
(๒)ผู้ปกครองบางท่านไม่มีเวลาฝึกเพิ่มเติม และติดตามดูแลเมื่อเด็กอยู่บ้าน
ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่มีเวลาให้ลูกไม่มีความรู้ ทำให้เด็กไม่มีความรับผิดชอบในภาระงาน และการบ้านของตน
๕.ด้านสื่อการเรียนการสอน
(๑)สื่อการเรียนการสอนไม่หลากหลาย
(๒)เนื้อหาวิชาบางสาระไม่น่าสนใจ ยากเกินไปสำหรับเด็ก
(๓)ขาดแหล่งเรียนรู้
(๔)สื่อการสอนไม่เพียงพอ
(๕)นักเรียนยังขาดแหล่งเรียนรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
(๖)สื่อไม่พอเพียงต่อจำนวนนักเรียน
๖.ด้านอื่นๆ
(๑)ขาดการติดตามดูแล ส่งเสริม และให้ความสำคัญการเรียนรู้วิชาภาษาไทย
(๒)ขาดงบประมาณในการสนับสนุน
ทั้งหมดเป็นภาษาเขียนของกลุ่มคุณครูภาษาไทยที่บางประโยคอาจสื่อความไม่ชัด ท่านผู้อ่านที่สงสัย กรุณาถามได้นะคะ ในตอนต่อไปผู้เขียนจะขอสรุปและจัดกลุ่มปัญหา พร้อมนำเสนอตัวอย่างกิจกรรมที่ได้จัด ณ โรงเรียนสบเมยพิทยาคม เพื่ออาจจะเป็นแนวทางแก่คุณครูผู้สอนภาษาไทยได้บ้างไม่มากก็น้อย
ด้วยความจริงใจและมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ค่ะ
วัชราภรณ์ วัตรสุข